ในคืนที่เงียบสงัดของปี 2533 สืบ นาคะเสถียร ได้จุดแสงเทียนเพื่อนั่งเขียนเอกสารวิชาการ เสนอให้ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ได้รับการพิจารณาเป็นมรดกโลก เอกสารที่บรรจุด้วยข้อมูลที่แม่นยำและความตั้งใจได้ถูกใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการนำเสนอการอนุรักษ์ป่าผืนนี้ ซึ่งปัจจุบันได้รับการรับรองจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกแล้ว

สืบ นาคะเสถียร ได้แสดงความเป็นห่วงต่อการสัมปทานป่าไม้ที่อาจทำลายป่าผืนสุดท้ายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ รวมถึงการสูญเสียที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าผู้ล่าอย่างเสือโคร่ง ที่นับเป็นสัญลักษณ์สำคัญของป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง

ปัจจุบัน, การอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าได้รับการสนับสนุนจากชุมชนและผู้พิทักษ์ป่าที่ได้รับการพัฒนาและฝึกอบรม ทำให้การปกป้องผืนป่าเป็นไปอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังส่งผลให้ประชากรเสือโคร่งเพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในพื้นที่นี้

แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยไปถึง 34 ปี ความมุ่งมั่นของ สืบ นาคะเสถียร ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับการอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่าทั่วประเทศ วันนี้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์เกินกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ และยังคงเดินหน้าสู่เป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ร้อยละ 40 ของประเทศ

การรำลึกถึง สืบ นาคะเสถียร ในปีนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการรำลึกถึงผู้บุกเบิกงานอนุรักษ์ แต่ยังเป็นการเรียกร้องให้ทุกคนร่วมกันสานต่อเจตนารมณ์ในการปกป้องและฟื้นฟูผืนป่า เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติคงอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป

ร่วมปกป้องผืนป่า สัตว์ป่า เพื่อความยั่งยืนของทุกชีวิต
#TSUCommunityEngagement #สถาบันส่งเสริมการบริการวิชาการ #มหาวิทยาลัยทักษิณ #TSU #IASP #รำลึกสืบนาคะเสถียร #ป่าทุ่งใหญ่ห้วยขาแข้ง